ปดส.ตามรวบ 3 ผู้ต้องหาค้ามนุษย์ กักขังหน่วงเหนี่ยว ลักลอบนำแรงงานต่างด้าวชาวลาวเข้าประเทศ ใช้ทำงานสารพัด อดหลับอดนอน แถมส่งขายต่อเป็นทอดๆ ก่อนเจ้าหน้าที่ ตม.จะเข้าช่วยเหลือ และนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดในเวลาต่อมา วันนี้ (19 มี.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น.ที่ บก.ปดส.พ.ต.อ.สุวิชญ์พล อิ่มใจรัชต์ รอง ผบก.ปดส.พร้อมด้วย พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก.2 บก.ปดส.ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายประเสริฐ หรืออุ่นเวียน อายุ 40 ปี สัญชาติลาว นางจันเป็ง หรือ ย่าเป็ง พัวพันธ์ศรี อายุ 78 ปี และนางภาวนา ขันแข็ง อายุ 44 ปี โดยผู้ต้องหาทั้งสามถูกจับกุมตามหมายจับศาล จ.เชียงราย ที่ 43-45/2552 ข้อหา “ร่วมกันให้บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองฯ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นและร่วมกันเอาคนลงเป็นทาสหรือให้มีฐานะคล้ายทาส นำเข้าหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร” ได้ที่บริเวณท่าเรือวัดหลวง ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย พ.ต.อ.สุวิชญ์พล กล่าวว่า เมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2548 นายประเสริฐ ได้ล่อลวงเด็กหญิงชาวลาวอายุระหว่าง 12-14 ปี รวม 4 คน ลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยคิดค่าหัวรายละ 1,500-2,000 บาท ก่อนส่งทางเรือข้ามแม่น้ำโขงมาขึ้นที่ท่าเรือท่าวัดหลวง ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ก่อนส่งไปพักที่บ้าน นางจันเป็ง และนางภาวนา จากนั้นทั้งสองพาเด็กหญิงทั้งหมดส่งไปขายให้โกมุ้ย เจ้าของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าใน กทม.โดยไม่ได้รับเงินค่าจ้าง เพราะ นางจันเป็ง และ นางภาวนา รับไปแล้ว ซึ่งบางวันต้องทำงานถึงตี 3 ตี 4 และไม่ได้ออกไปนอกโรงงาน เป็นเวลาประมาณ 9-10 เดือน ต่อมาผู้เสียหายได้ขอกลับบ้าน แต่กลับถูกส่งตัวไปขายต่อที่ อ.สุไหงโกลก ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ตรวจพบและให้ความช่วยเหลือไว้ได้ ก่อนส่งตัวให้เจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จึงพาเข้าแจ้งความที่ บก.ปดส.ติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ไว้ได้ นอกจากนี้ ยังมี นางนิด แผ่นใหญ่ ผู้ต้องหาให้ที่พักพิงอีกรายที่อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุม สอบสวน นายประเสริฐ ให้การรับสารภาพว่า พาเด็กหญิงทั้ง 4 เข้าประเทศไทยจริง เนื่องจากทั้งหมดเป็นญาติที่อยู่บ้านคะอาง ประเทศลาว ต้องการมาหางานทำ โดยตนไม่ได้เรียกเก็บเงินค่าหัวตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด ส่วนเงินที่ได้รับเป็นเพียงค่าเรือและค่ารถเท่านั้น ส่วน นางจันเป็ง และ นางภาวนา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ปดส.ดำเนินคดีต่อไป
โดย คม ชัด ลึก วัน ศุกร์ ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2551 02:01 น.
เหตุการณ์นายจ้างทารุณลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กหญิงชาวลาวครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 มกราคม พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผู้กำกับการศูนย์สวัสดิภาพเด็ก เยาวชน และสตรี (ผกก.ศดส.) พร้อม พ.ต.ท.จุมพล คณานุรักษ์ รอง ผกก.ศดส. พ.ต.ต.สวัสดิ์ ภักดี สว.งานสืบสวนตรวจตราควบคุม และ ร.ต.อ.กฤตเมธ วงษ์เนตร รอง สว. ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายพิชัย ลิขิตวิวัฒน์กุล อายุ 61 ปี นางศิริลักษณ์ ลิขิตวิวัฒน์กุล อายุ 54 ปี ภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 47/58 แขวงและเขตบางนา กทม. และ น.ส.อาจัน แซ่ฉิ่น อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 206/125 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พร้อมแจ้งข้อหาให้ที่พักพิงแรงงานต่างด้าว ใช้แรงงานเด็ก และแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายเพิ่มเติมแก่นางศิริลักษณ์
พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ แถลงว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ ศดส.ได้รับแจ้งว่า ที่ตลาดสี่แยกบางนามีการใช้แรงงานเด็ก รวมถึงมีการทารุณทำร้ายร่างกายใช้แรงงานต่างด้าวโดยผิดกฎหมาย จึงวางแผนเฝ้าซุ่มดู จนพบว่ามีการใช้แรงงานเด็กจริง จึงขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดพระโขนง ที่ ค 15/2551 ลงวันที่ 16 มกราคม 2551 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 47/58 แขวงและเขตบางนา ช่วยเหลือ ด.ญ.จิ๊บ (นามสมมติ) อายุ 10 ขวบ และ ด.ญ.รุด อายุ 15 ปี ชาวลาว รวมทั้งตรวจค้นบ้านเลขที่ 47/44 ช่วยเหลือ น.ส.ปลา อายุ 16 ปี ชาวลาว ซึ่งอยู่ในสภาพอิดโรย โดย ด.ญ.รุด มีบาดแผลพุพองที่แขนซ้าย ลักษณะเกิดจากไฟลวก และแขนขวามีแผลเป็นที่เกิดจากไม้และของมีคม จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย พร้อมประสานหน่วยงานสังคมสงเคราะห์ดำเนินการช่วยเหลือตามขั้นตอน
ผกก.ศดส. กล่าวว่า จากการสอบถาม ด.ญ.รุด ให้การว่า เดินทางเข้ามาประเทศไทยโดยผ่านนายหน้าชาวไทย เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา โดยให้เข้ามาทำงานเป็นคนรับใช้ ได้ค่าจ้างเดือนละ 2,000 บาท ที่บ้านของสองสามีภรรยาดังกล่าว โดยทำงานทุกอย่างในบ้าน ช่วง 2-3 เดือนแรกไม่มีเหตุการณ์อะไร แต่ก็ไม่เคยได้รับเงินเดือน ต่อมาเมื่อ ด.ญ.รุด ทำงานแล้วไม่ถูกใจนางศิริลักษณ์ก็จะถูกทำร้ายด้วยไม้และของมีคม บางครั้งก็ตบกกหูจนเกิดความกลัว
ผกก.ศดส. กล่าวอีกว่า จากการสอบปากคำ ด.ญ.รุด ยังให้การอีกว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ทำงานอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ไม่เคยได้รับเงินเดือนแม้แต่เดือนเดียว นอกจากนี้ ยังห้ามไม่ให้ดูทีวี ฟังวิทยุ หรือออกนอกบ้านอย่างเด็ดขาด อ้างว่าจะถูกตำรวจจับ รวมถึงห้ามพูดคุยกับใคร และยังต้องตื่นตั้งแต่ตี 3 เพื่อทำงานทุกอย่างในบ้าน กว่าจะได้นอนก็ประมาณ 4 ทุ่ม ครั้งล่าสุดถูกทำร้ายเพราะอุ่นกับข้าวให้ ด.ญ.จิ๊บ แต่นางศิริลักษณ์ลงมาเห็น ก็ตรงเข้ามาต่อว่าว่าใช้แก๊สโดยไม่ได้รับอนุญาต สิ้นเปลือง แล้วใช้หม้ออุ่นกับข้าวที่กำลังร้อนนาบที่แขนขวาจนเป็นแผลพุพอง หลังเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ ด.ญ.รุด บอกทั้งน้ำตาว่า เมื่อกลับประเทศแล้วจะไม่กลับมาประเทศไทยอีก
อย่างไรก็ตาม จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสาม ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งเจ้าหน้าที่จะส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.บางนา เจ้าของพื้นที่ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป